หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

การส่งเงิน

ส่งเงินด้วยอีเมลตามแบบฉบับ PayPal
                สำหรับการส่งเงินแบบ PayPal  ที่ใช้อีเมลนั้น  อีเมลจะเป็นเหมือนหมายแจ้งไปถึงผู้รับเงิน PayPal ว่า  มีคนส่งเงินมาให้ ซึ่งผู้รับเงินก็จะมีอยู่ 2 แบบ  คือผู้รับเงินที่มีบัญชี PayPal เป็นของตัวเองแล้ว  และผู้รับเงินที่ยังไม่มี PayPal  ผู้รับทั้งสองแบบก็จะได้รับอีเมลคล้ายๆ กัน  แจ้งให้รู้ว่ามีเงินส่งมาให้  ถ้ายังไม่มีบัญชีก็ให้ไปเปิด  แต่ถ้ามีบัญชี PayPal แล้ว  ก็จะได้อีเมลพร้อมกับเงินจำนวนนั้นใส่เข้าไปใส่บัญชีทันที  พร้อมกับเลขอ้างอิงการทำธุรกรรม (Transaction ID)  ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐาน  และยังใช้ค้นหาประวัติบัญชีได้ในภายหลังด้วย
ขั้นตอนการส่งเงินจากบัญชี  PayPal
              1.  เข้าระบบ PayPal
              2.  คลิกที่เมนู ‘Send Money
หน้าบัญชี PayPal แสดงเมนู ‘Send Money'

              3.  ใส่อีเมลของผู้ที่คุณต้องการจะส่งเงินไป เช่น talala_j@hotmail.com
              4.  ใส่จำนวนเงินในช่อง ‘Amount’
              5.  เลือก  ‘Category of Purchase’  เป็นอะไรก็ได้  ถ้าไม่เลือกจะไม่สามารถทำการส่งเงินได้

เมนูย่อยของ Send Money > ’Pay Anyone’  เพื่อให้ข้อมูลการส่งเงิน
                                 a  : อีเมลปลายทางที่ต้องการส่งเงินให้ 
                                 b  : จำนวนเงิน
                                 c  :  สกุลเงินที่ต้องการส่ง  (ถ้าผู้รับเงินต้องการรับเงินสกุลนอกจากที่ผู้ส่งใช้อยู่  ผู้ส่งต้องเสีย 2.5%  ค่าแปลงสกุลเงิน โดยหักจากเงินที่จะส่งไป)
                                 d : ช่องนี้ให้ผู้ส่งเลือกการใช้เงินว่า  เงินที่ผู้ส่งกำลังจะส่งนี้  ส่งไปเพื่ออะไร  ซึ่งถ้าเป็น eBay Items และ Auction Goods  (none-eBay) ผู้ส่งจะต้องใส่ข้อมูลสินค้าที่ประมูลได้จาก eBay  หรือเว็บประมูลอื่นๆ  ใช้ Auction Goods  ส่วน  Goods และ Service คือการเลือกสำหรับส่งเงินธรรมดาที่ไม่ต้องใส่ข้อมูลอะไร
              6.  ตรวจความเรียบร้อยของข้อมูลต่างๆ  อีกครั้ง  (ถ้าต้องการกลับไปแก้ไข คลิกที่ปุ่ม ‘Edit’)  และถ้าไม่ต้องการให้ผู้รับเงินปลายทางเห็นที่อยู่ผู้ส่ง  ให้คลิก ‘No shopping address required’  ด้านล่างสุด  หรือสามารถเปลี่ยนที่อยู่การส่งของได้โดยคลิกที่ลิงก์ ‘Add Address’

หน้าที่ตรวจความเรียบร้อย  ก่อนยืนยันการส่งเงินด้วยปุ่ม ‘Send Money’
                 7.  เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว  คลิกที่ปุ่ม ‘Send Money’  เพื่อยืนยันการส่งเงิน
การเลือกใช้แหล่งที่มาของเงินเวลาจ่ายผ่าน PayPal  (Source of Funds)
                 เมื่อผู้ใช้ต้องการส่งเงิน PayPal  จะบังคับให้ใช้ยอดเงินคงเหลือที่อยู่ในบัญชี PayPal  ก่อนเป็นอันดับแรก  แต่ถ้าเงินในนั้นไม่พอหรือไม่มีเลย  PayPal  จึงจะดึงเงินจากบัตรเครดิตที่คุณจะลงทะเบียนไว้กับ PayPal ได้
                 ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนจ่ายเงินซื้อของ  ด้วยยอดเงินคงเหลือ  หรือบัตรเครดิตผ่าน PayPal  ก็จะไม่ถูกหักค่าใช้จ่ายใดๆ  ส่งเงินไปเท่าไรก็เท่านั้น  ไม่มีการเสียค่าธรรมเนียมใดๆ  แต่ผู้รับต้องเสียถ้าผู้รับไม่ได้ใช้บัญชีแบบ Personal
การส่งเงินต่างสกุลด้วย  PayPal (Multiple  Currencies)
                เวลาที่ต้องการจะซื้อของในร้านค้าออนไลน์ซึ่งไม่รับเงินดอลลาร์สหรัฐ  ผู้ใช้ก็สามารถใช้ PayPal  เปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐใน PayPal  ให้เป็นเงินสกุลที่ร้นค้าออนไลน์ต้องการได้
                PayPal  เรียกบริการเปลี่ยนเงินสกุลของเขาว่า  Multiple  Currencies  บริการนี้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยและการทำธุรกิจ แบบไม่จำกัดสกุลเงิน  หรือธุรกิจแบบอินเตอร์ฯ
ส่งเงินแบบเสียค่าธรรมเสียม 2%  ด้วยระบบ Mass Pay
                PayPal  มีระบบ Mass Pay  ที่สามารถช่วยขจัดปัญหาการเสียค่าธรรมเนียม  ถ้าผู้ส่งต้องการจะเสียค่าธรรมเนียมแทนผู้รับเงิน  ถ้าผู้ส่งเงินใช้ระบบนี้  PayPal  ก็จะลดค่าธรรมเนียมลงได้ด้วย  โดยจะเสียแค่จำนวน 2% เท่านั้น  ไม่ว่าจะส่งเงินเท่าไรก็ตาม
                นอกจากนั้นระบบ  Mass Pay  ยังสามารถช่วยให้ส่งเงินได้หลายคนในครั้งเดียวอย่างง่ายดายด้วยการสร้างไฟล์ สเปรดชีตจากโปรแกรม Excel  ทำบัญชีแสดงข้อมูลการส่งเงินประกอบด้วยอีเมลผู้รับเงินปลายทาง,  จำนวนเงิน,  สกุลเงิน  และบันทึกอื่นๆ เพื่อเก็บเป็นประวัติการจ่ายเงินของผู้ใช้เอง

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554




เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการสมัคร Paypal ครับ
เมื่อเราล็อกอินเข้าระบบ ของ PayPal แล้วมองจากรูปเราควรจะทำการยืนยันบัตรของเราครับโดยวิธีทำ ทำตามรูปเลยครับ


จากนั้นทำตามรูปเลยครับ

เมื่อเรากดแล้วทาง paypal จะทำการหักเงิน 1.95$ หรือประมาณ 60-70 บาทนะครับ
จาก นั้นเราก็เข้าไปติดต่อกับทาง ทางธนาคารของเรา เพื่อไปขอหมายเลข paypal 4 ตัวนะครับ

หรือโทร ไปที่ 1333 ครับ
กด 1 เพื่อภาษาไทย
กด 0 ติดต่อเจ้าหน้าที่
กด 8 สอบถามเรื่องทั่วไป
จากนั้นกรอกรหัสบัตร Be1st 12 หลักครับ
จากนั้นกรอกรหัส ATM 4 หลัก
ระบบจะโอนสายไปให้เจ้าหน้าที่ ให้บอกไปว่า “สอบถามรหัส Paypal” เจ้าหน้าที่จะรู้ทันที แต่ “อาจจะ” มีการสอบถามข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนเล็กน้อยนะครับ

พอเราได้รหัส 2 จำนวนจากการโทรไปถามธนาคาร เราก็เอารหัสที่ได้ เพื่อมา ยืนยันบัตรต่อใน โดยกรอกรูปด้านล่างครับ
Neobux

ถ้า ใครสมัคร ไอแบงค์กิ้งของธนาคารกรุงเทพไว้ สามารถดูยอดเงิน 2 จำนวนเป็นรหัส 4 ตัวที่ Paypal ส่งมาให้ได้โดย ให้เราก็ login เข้าที่ไอแบงค์กิ้ง เพื่อดูเลขรหัส 4 ตัวเอาไปทำการยืนยันตัวตน พอเข้าไปดูก็จะเห็นว่าได้หักไปแล้ว ชึ่งตรงหน้าแสดงรายการรวมจะไม่เห็นเลขระหัส 4 ให้เรากดที่ หมายบัตรเคดิต ใต้หมายเลขบัญชีเราอะ จะเป็น xxxxxx1234 ประมาณนี้ กดเข้าไปเลยจะเจอ ให้เอาเลข 4 ตัวแรก จะเป็น xxxxpaypal เอาไปใส่ ก็เป็นเสร็จสิ้น
แล้ว paypal จะคืนเงินให้เรา 1.95$ ครับ เมื่อเรา ล็อกอินเข้าไปไน Paypal จะเหมือนรูปนี้ครับ


แค่ นี้เราก็มีบัญชี paypal แบบสมบูรณ์ครับ
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนไม่มี บัตรเดรดิตครับ ก็ใช้บัตรเดบิต ของธนาคารกรุงเทพได้ ที่เป็นบัตร Be’1st (บีเฟริส) ครับ ในการทำบัตร ถ้ายังไม่มีบัญชีธนาคารกรุงเทพให้เปิดบัญชีใหม่ประมาณ 500 บาทและสมัครไอแบงค์กิ้งและขอทำบัตร BE1ST (อ่านว่า บี-เฟิด) ด้วย จากนั้นก็รอสัก 1-2 วันจะได้ เลขประจำตัวลูกค้าสำหรับไอแบงค์กิ้ง ทางอีเมล์ที่ใช้สมัครไอแบงค์กิ้งและรออีกประมาณ 3-4 วันจะได้รับ username and pass ทางไปรษณีย์ หลังจากนั้นก็ login เข้าไปแก้ username pass ใน iBanking ใหม่เป็นอันเสร็จ

ตัวอย่าง บัตรCredit Card Number: หมายเลขบัตร ครับ
Expiration Date: 09/16 ( วันหมดอายุของบัตร 09/2016)
Cardholder Name: ชื่อเจ้าของบัตร
Card Security Code (CSC หรือ CVV): หมายเลข vcc หรือ csc
ขั้นตอนก็ง่ายมากครับ
1.เปิด บัญชีกับธนาคาร เป็นบัญชีสะสมทรัพย์ แล้วก็ทำบัตร Be’1st เลย เป็นบัตรเอทีเอ็มนี่แหละครับ แต่เดี๋ยวนี้สามารถนำมาใช้ซื้อของผ่านอินเตอร์เนตได้เหมือนบัตรเครดิตแล้ว เอกสารที่ต้องเตรียม : บัตรประชาชน (หรือหนังสือเดินทาง)
หากทำบัตร Be 1st แบบไม่มีรูป เพียง 7 วันก็ได้รับบัตร
แต่หากเป็นบัตร Be 1st แบบมีรูป สามารถรับบัตรได้ภายใน 15 วัน
1. จะสมัครได้ที่ไหน
สมัคร ได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาใกล้บ้านท่าน หรือหากท่านต้องการเปิดบัญชีใหม่กับธนาคารกรุงเทพประเภทสะสมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน ท่านก็สามารถสมัครบัตรเดบิตบีเฟิสต์ควบคู่กับการเปิดบัญชีใหม่เช่นเดียวกัน
2. ใครบ้างที่สมัครบัตรเดบิตบีเฟิสต์ได้
ทุกท่านสามารถสมัครเป็นเจ้าของบัตรเดบิตบีเฟิสต์ได้ เพียงท่านมีบัญชีสะสมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวัน ของธนาคารกรุงเทพ
3. ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
กรุณาเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางและสมุดเงินฝาก และมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อใช้ประกอบการสมัคร
4. ควรใช้บัญชีไหนในการสมัคร
ท่าน สามารถใช้บัตรเดบิตบีเฟิสต์กับบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพได้สูงสุดถึง 10 บัญชี (บัญชีกระแสรายวัน 5 บัญชี และบัญชีสะสมทรัพย์ 5 บัญชี รวมถึงบัญชีกองทุนรวม) และกำหนดบัญชีหลักไว้ 1 บัญชี สำหรับหักชำระค่าธรรมเนียมในการทำ ธุรกรรมบางรายการ
5. ทำอย่างไรหากยังไม่มีบัญชีธนาคาร กรุงเทพ
ท่านสามารถเปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพได้ที่สาขา ธนาคารกรุงเทพใกล้บ้านท่าน ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแสดงบัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง เพื่อขอเปิดบัญชีสะสมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวัน และเจ้าหน้าที่ธนาคารจะแนะนำให้ท่านสมัครใช้บัตรเดบิตบีเฟิสต์ควบคู่กับการ เปิดบัญชีดังกล่าว
6. สมัครแล้วต้องรอรับบัตรนานแค่ไหน
สมัคร แล้วท่านสามารถรอรับบัตรเดบิตบีเฟิสต์ได้ทันที
7. ต้องเสียค่าธรรมเนียมเท่าใด
ค่าธรรมเนียมแรกเข้าเพียง 100 บาท และค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาท
Note:
ถ้าคุณสมัครบัตรปีเฟริส และรับบัตรปีเฟริสทันทีที่สาขาเลย บัตรจะไม่มีเลข CVV หรือ (CSC)หลังบัตร บัตรปีเฟริส์ใบนั้นจะไม่สามารถใช้สมัครPayPalได้และไม่สามารถซื้อสินค้าออ นไลน์บนอินเตอร์เน็ตได้ บัตรวีซ่าอิเล็กตรอนก็ใช้ไม่ได้นะครับถึงจะมี เลข CVV ก็ตาม คุณจะต้องบอกกับธนาคารกรุงเทพสาขาที่คุณไปเปิดบัตรปีเฟริสว่า ต้องการสมัครบัตรปีเฟริสที่ออกโดย ธนาคารกรุงเทพทางสำนักงานใหญ่เท่านั้น และจะต้องเป็นบัตรที่มีเลข CVV หรือ (CSC)หลังบัตรบัตรปีเฟริส์เท่านั้นด้วย คุณถึงจะใช้บัตรปีเฟริสที่มีเลข CVV หรือ (CSC) สมัครPaypal ได้
2.ขั้น ตอนถัดมาคือต้องโทรไป Verified ก่อนครับ จะได้ใช้ผ่านอินเตอร์เนตได้ (Verified by Visa)โทรไป Verified ที่ 1333 ครับ
โทรศัพท์มายัง บัวหลวงโฟน 1333 หรือ 0-2645-55552
-กด 7 เพื่อสมัครใช้บริการ Verified by Visa
-กด 1 เพื่อทำการตั้งหมายเลขอ้างอิงสำหรับลงทะเบียน Verified by Visa
-กดหมายเลขบัตร Be1st ของคุณ
-กดรหัสผ่านบัตร Be1st ของคุณ
-กด หมายเลขอ้างอิง 8 หลักที่คุณต้องการ
-กดหมายเลขอ้างอิง 8 หลักของคุณอีกครั้งเพื่อทำการยืนยันเป็นอันเสร็จสิ้นการขอหมายเลขอ้างอิง (Reference Code)
จากนั้นระบบจะแนะนำให้คุณไปลงทะเบียนบนอินเตอร์เน็ตอีก ครั้งกับหมายเลขอ้างอิง 8 หลักที่คุณสมัครใช้กับ 1333 ที่เว็บไซด์ลิงค์เว็บไซด์ข้างล่างนี้
ลงทะเบียนหมายเลข อ้างอิง 8 หลัก(Verified by Visa)
เท่านี้ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนทำบัตรแล้วนะครับ เมื่อได้เลขบัตรมาเรียบร้อยแบบนี้แล้ว ก็นำไปสมัครpaypalกันได้เลยครับ

วิธีสมัคร PayPal

PayPal คืออะไร

Paypal เป็นธนาคารออนไลน์ ที่มีระบบชำระเงินออนไลน์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือทั่วโลก มีคนนิยมใช้ที่สุดในโลก และ Paypal ได้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากลว่าเป็นระบบที่มี ลูกค้าในการใช้งานมากที่สุดในโลกอีกด้วย ถ้าเพื่อนๆ ต้องการซื้อหรือขายสินค้าออนไลน์กับคนทั่วโลก จะต้องสมัครเป็นสมาชิกของ Paypal
ที่เป็นเช่นนี้เพราะ หากเราใช้ธนาคารแบบธรรมดา ก็จะซื้อหรือขายสินค้าได้เฉพาะในเมืองไทย ดังนั้น Paypal จึงทำหน้าที่เปรียบเสมือนตัวกลางในการทำธุรกรรมทางการเงินหรือโอนเงินออนไลน์สากลนั่นเอง
สมัคร Paypal

สิ่งที่ต้องใช้ในการสมัคร PayPal ใน 2 ขั้นตอนหลักๆ ของการสมัคร มีดังนี้

ขั้นตอนที่ 1.ในการสมัคร Paypal นั้นต้องใช้

1.1 อีเมลล์ที่ใช้งานได้จริง ของ Hotmail, Gmail, Yahoo หรือที่อื่นอะไรก็ได้
1.2 ชื่อ-นามสกุล ตรงตามบัญชีธนาคาร และ ที่อยู่จริงตามบัตรประชาชน
1.3 บัตรเดบิด ( เช่น บัตร B1st ของธนาคารกรุงเทพ) หรือบัตรเครดิตของธนาคารอื่นๆ(ไม่มีก็สามารถใช้ซื้อขายแลกเปลียนได้)

ขั้นตอนที่ 2. ในการเชื่อมโยงหรือผูกบัตร หรือบัญชี กับ Paypal นั้นต้องใช้

2.1 บัตรเดบิต/บัตรเครดิต หรือ บัญชีธนาคาร อย่างใดอย่างหนึ่ง แนะนำว่าใช้บัตร บัตรเดบิต เช่น Be1st ของธนาคารกรุงเทพเพราะทำง่ายสะดวกและปลอดภัยที่สุด ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เปิดบัญญีใหม่เพียง 500 บาทเอง
2.2 เงินในบัญชีไม่เกิน 100 บาท โดย paypal จะหักเงินในบัญชีเราเพื่อต้องการทราบว่าสามารถตัดเงินจากบัญชีหรือบัตรเรา ได้จริง แล้วทาง Paypal จะคืนเงินให้ภายหลังใน Paypal เป็นโบนัส
    ในขั้นตอนที่ 2. นี้ ทำเพื่อยืนยันตัวตนว่าบัญชีนั้นมีอยู่และงานได้จริง ถ้าไม่ทำขั้นตอนนี้ก็ใช้สามารถบัญชีได้ โดยสามารถรับเงินที่โอนเข้ามาได้ แต่ไม่สามารถถอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในไทยได้ และอาจจะมีปัญหาอื่นๆตามมาทีหลังอีก ทางที่ดีก่อนทำธุรกรรมทางการเงินกับ Paypal ควรยืนยันตัวตนก่อน
ถ้าใครยังไม่มีบัตร BE1ST ดูวิธีทำบัตรได้ที่ http://book-paypal.blogspot.com/2011/12/be1st-500-be1st-1-2-3-4-username-and.html

ขั้นตอนการ สมัคร PayPal โดยใช้ธนาคาร กรุงเทพ กสิกร ไทยพาณิชย์

1. สมัคร PayPal ประเทศไทย ก่อนเข้าไปที่ www.paypal.com/th
สมัคร PayPal
2.ให้ทำตามรูป เลยครับ เลือกแบบ Premier จะดีที่สุด ไม่ต้องอัพเกรดอีกในภายหลัง
วิธีสมัคร PayPal

4.กรอกรายละเอียด ตามรูปครับ (กรอกเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ ) จดรหัสผ่านไว้ด้วยกันลืม ตามรูปข้างล่าง
สมัคร PayPal

สมัคร PayPal
    ตามรูปข้างบน สำหรับคนที่มีบัตรแล้วให้ใส่ข้อมูลได้เลย ตรงช่องกรอกข้อมูลบัตร วันที่หมดอายุที่บัตรจะเขียนว่า exp ก็ดูที่บัตร เช่น exp 10/18 หมายถึง เดือน 10 ปี 2018 ส่วน cvv ก็ดูหลังบัตร เลข 3 ตัว

เมื่อเราทำการสมัคร เรียบร้อยแล้ว เราจะต้องทำการยืนยัน Email ให้เข้าไปเช็ค
Email ที่เราใช้ สมัครกับ Paypal ใน Email จะมีเมลล์ที่เพพาวส่งมา สองฉบับ แต่ให้คลิกเข้าไป ใน Email ที่ชื่อว่า เปิดใช้บัญชี PayPal ของคุณ  แล้วคลิกยืนยันที่คำว่า “คลิกเพื่อเปิดบัญชีของคุณ”

สมัคร Paypal

จากนั้นเราก็ใส่รหัสผ่าน ให้เหมือนกับตอนที่สมัคร

สมัคร Paypal
จากนั้น  ก็ใส่คำถามเพื่อความปลอดภัยครับ(กันไว้ในกรณีที่เราลืมรหัสผ่าน)
สมัคร Paypal
ขั้นตอนต่อไปเป็นการยืนยันบัตร(ไม่ยืนยันก็ใช้บริการได้แต่ผมแนะนำว่ายืนยันดีกว่า) หรือบัญชี สำหรับผู้ที่มีบัตรหรือบัญชีธนาคาร ของ ธนาคาร กรุงเทพ กสิกร ไทยพาณิชย์ ดูได้ที่ http://book-paypal.blogspot.com/2011/12/paypal-paypal-paypal-1.html